6 Views |
Next-Generation Enzyme Technology for Extended Shelf Life and Superior Bread Quality
เทคโนโลยีเอนไซม์ยุคใหม่เพื่อการพัฒนาคุณภาพและยืดอายุการเก็บรักษาขนมปัง
By:
Bee Chin Lee
R&D Manager
AB Mauri Malaysia
bclee@abmauri.com.my
ยกระดับคุณภาพขนมปังด้วยเทคโนโลยีเอนไซม์ขั้นสูง
เทคโนโลยีเอนไซม์1 ถือเป็นอีกหนึ่งโซลูชันล่าสุดที่จะช่วยตอบโจทย์ความต้องการของผู้ผลิตและผู้บริโภคในแง่มุมต่างๆ ดังนี้
สร้างเสริมประสบการณ์ในการบริโภค: เอนไซม์มีบทบาทสำคัญในการเพิ่มความยืดหยุ่น รวมถึงความนุ่มและชุ่มฉ่ำตลอดอายุการเก็บรักษาผลิตภัณฑ์ช่วยให้การบริหารจัดการสินค้าดีขึ้น: การใช้เอนไซม์ในกระบวนการผลิตเบเกอรีจะช่วยลดการเสียรูปของผลิตภัณฑ์และลดของเสียที่เกิดขึ้น โดยที่ยังคงรักษาคุณภาพของผลิตภัณฑ์ไว้ได้เสริมสร้างความยั่งยืน: ลดปริมาณคาร์บอนฟุตพรินท์ประมาณร้อยละ 15 ลดอัตราการตีคืนสินค้าลงร้อยละ 3-7 และเพิ่มประสิทธิภาพในการหมุนเวียนถาดอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
คุณประโยชน์ของสารเสริมคุณภาพเนื้อสัมผัสสำหรับขนมปังยุคใหม่
เทคโนโลยีเอนไซม์1ถูกนำมาใช้พัฒนาเป็นสารเสริมคุณภาพเนื้อสัมผัส เพื่อผลลัพธ์ที่ดีในการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ขนมปังและเบเกอรีด้วยคุณประโยชน์ต่างๆ ดังนี้
1. เพิ่มความนุ่มและชุ่มฉ่ำ
เพิ่มความนุ่มและชุ่มฉ่ำให้กับขนมปังมากขึ้น จึงช่วยยืดอายุการเก็บรักษาผลิตภัณฑ์
2. เสริมความยืดหยุ่นขั้นสูงสุดให้กับเนื้อสัมผัส
อัตราความคืนตัวสูง (Spring-back) จึงช่วยเพิ่มความสามารถในการจัดเรียงสินค้าและลดขยะอาหาร
3. พัฒนาเนื้อสัมผัสให้มีความสม่ำเสมอตลอดอายุการเก็บรักษา
ช่วยให้ขนมปังคงรูปได้ดี ช่วยเพิ่มผลผลิตให้สูงขึ้น และสามารถที่จะสไลซ์ขนมปังได้ง่ายยิ่งขึ้น
4. ประโยชน์ด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG)
ช่วยลดตำหนิของผลิตภัณฑ์ซึ่งเป็นสาเหตุของการตีคืนสินค้า อีกทั้งยังช่วยลดขยะอาหาร จึงช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับสินค้าและบริษัท
ประสิทธิภาพที่พิสูจน์ได้ของสารเสริมคุณภาพเนื้อสัมผัสในขนมปังที่ใช้เทคโนโลยีเอนไซม์มีส่วนช่วยในการส่งมอบนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ความต้องการของตลาดเบเกอรีในแง่มุมต่างๆ ทั้งในด้านประสิทธิภาพการผลิตและความยั่งยืนเพื่อการก้าวเข้าสู่อุตสาหกรรมขนมปังและผลิตภัณฑ์เบเกอรียุคใหม่ที่มีคุณภาพสูงและมีอายุการเก็บรักษาที่ยาวนานยิ่งขึ้น
Enhancing Bread Quality with Advanced Enzyme Technology
Latest enzyme technology1 helps meet the needs of both manufacturers and consumers in various aspects as follows.
- Improved Eating Experience: Enhances resilience, softness, and moistness throughout shelf life.
- Better Stack-ability: Reduces product deformation, minimizs waste, and ensures consistent quality.
Sustainability Benefits: Reduces CO2 footprint by approximately 15%, decreases product returns (by 3-7%), and optimizes tray circulation.
Key Benefits of Next-Generation Texture Improver
Enzyme technology1 is used to develop texture-enhancing additives for optimal results in creating bakery and bread products, with the following benefits:
Enhanced Softness & Moisture Retention:
Softer, moister bread stays fresher for longer.
Superior Resilience:
High recovery rate (spring-back) improves stack-ability and reduces waste.
Consistent Texture Over Shelf Life:
Buns maintain structure, ensuring better recovery and slice-ability.
ESG Benefits:
Reduces defects and returns, minimizing food waste.
By adopting this next-generation solution, manufacturers can meet evolving consumer expectations, improve operational efficiency, and enhance sustainability in the bakery industry. The future of high-quality, long-lasting bread begins with innovative enzyme technology.
ข้อมูลเพิ่มเติม / Additional Information
1เทคโนโลยีเอนไซม์จาก AB Mauri เป็นโซลูชันที่นำมาใช้เป็นสารเสริมคุณภาพเนื้อสัมผัสเพื่อยกระดับคุณภาพของขนมปังและผลิตภัณฑ์เบเกอรีอื่นๆ
1AB Mauri's enzyme technology is a solution used as a texture improver to elevate the quality of bread and other bakery products.